วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
ตำนานการวิ่งมาราธอน
เมื่อ 490 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพเปอร์เซียจำนวน 150,000 นายได้กรีฑาทัพเข้าบุกกรีก การโจมตีเริ่มขึ้นที่อ่าวมาราธอน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเอเธนส์ ฝ่ายกองทัพกรีกมีกำลังพลเป็นรองกว่ามากด้วยจำนวนทหารเพียง 10,000 นายเท่านั้น
แม้กองทัพเปอร์เซียจะได้ชื่อว่าเป็นกองทัพที่เกรียงไกรที่สุดในโลกในยุคนั้น แต่สมรภูมิมาราธอนกลับจบลงด้วยชัยชนะของกรีก โดยฝ่ายกรีกเสียกำลังพลไปเพียง 203 นาย ส่วนเปอร์เซียสูญเสียไปถึง 4,600 นายและต้องล่าถอยไป
การถอยทัพของเปอร์เซียเป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ทัพกรีกรู้ดีว่ากองเรือจากเปอร์เซียเพียงแต่ถอยเพื่อจะยกทัพตลบหลังกลับไปตีที่เอเธนส์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องแจ้งให้ทางเอเธนส์ได้รับรู้โดยเร็ว ทหารสื่อสารนาม เฟดิปพิดีส จึงต้องรับหน้าที่ส่งข่าวด้วยการวิ่งเป็นระยะทางเกือบ 40 กิโลเมตรจากทุ่งมาราธอนไปยังเอเธนส์ เมื่อไปถึงเอเธนส์ เฟดิปพิดีสได้พูดว่า “Nenikèkamen” ซึ่งหมายถึง "เราชนะแล้ว" เมื่อสิ้นคำก็ล้มลงสิ้นใจ การวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ของเฟดิปพิดีสในครั้งนั้น ได้กลายเป็นต้นกำเนิดของการวิ่งมาราธอนในเวลาต่อมา
นี่คือตำนานที่ได้รับการบอกกล่าวเล่าขานกันอย่างแพร่หลาย แต่ตำนานนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับตำนานอื่นอีกหลายตำนาน ที่บอกเล่าสิ่งที่ผู้เล่าอยากให้เป็น หาใช่บอกเล่าเรื่องที่มันเป็น หากศึกษาตำนานนี้ในแง่มุมของประวัติศาสตร์แล้ว จะพบความน่าเคลือบแคลงและคลุมเครือในหลายประเด็น จนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ตำนานอันน่าสุนทรีย์นี้มีความจริงอยู่สักกี่ประโยคกัน
หลักฐานเอกสารเก่าแก่ที่สุดเท่าที่หาได้ เป็นบันทึกที่เขียนโดยนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกชื่อ เฮรอโดตัส ที่เขียนในปี 440 ก่อนคริสตกาล เอกสารฉบับนี้ได้บันทึกเรื่องราวของสมรภูมิมาราธอน และปรากฏชื่อของเฟดิปพิดีสว่าเป็นทหารที่วิ่งจากเมืองเอเธนส์ไปยังเมืองสปาร์ตาเพื่อขอกำลังเสริมไปช่วยทัพที่มาราธอน ระยะทางจากเอเธนส์ไปสปาร์ตาไม่ใช่ 40 กิโลเมตร แต่เป็น 235 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามทางสปาร์ตาได้กล่าวปฏิเสธเนื่องจากอยู่ในช่วงประกอบพิธีคาร์เนียซึ่งจะสิ้นสุดในคืนจันทร์เพ็ญ หลังคืนจันทร์เพ็ญจึงจะไปช่วยได้ เฟดิปพิดีสต้องวิ่งนำข่าวน่าผิดหวังกลับไปแจ้งทางเอเธนส์อีกครั้ง รวมระยะทางไปกลับเกือบ 500 กิโลเมตร
เป็นที่น่าสังเกตว่า การวิ่งระหว่างทุ่งมาราธอนกับเอเธนส์ไม่ปรากฏในเอกสารของเฮรอโดตัสเลย การวิ่งเส้นทางดังกล่าวนี้ปรากฏครั้งแรกในกวีนิพนธ์ชื่อ ออนเดอะกลอรีออฟเอเธนส์ ของ พลูทาร์ค ซึ่งเขียนขึ้นหลังจากศึกมาราธอนนานถึง 600 ปี แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ระบุว่าคนที่วิ่งนั้นคือเฟดิปพิดีส ถัดจากนั้นมาอีกหนึ่งศตวรรษ ลูเซียนแห่งซาโมซาตา ได้ระบุชื่อนักวิ่งจากมาราธอนมาเอเธนส์ว่า ฟิลิปพีดีส (ไม่ใช่เฟดิปพิดีส)
จนกระทั่งล่วงมาถึง ค.ศ. 1879 รอเบิร์ต บราวนิง ได้เขียนบทกวีชื่อ "เฟดิปพิดีส" โดยได้จับเรื่องดังกล่าวข้างต้นมาผูกกันเป็นเรื่องเดียว งานของบราวนิงนี้เองที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจนเป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่าคือประวัติของการวิ่งมาราธอน (g)(j)
ไม่ว่าการวิ่งในตำนานนั้นจะเคยเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เรื่องราวของเฟดิปพิดีสก็ตราตรึงใจคนหลายคน ซึ่งในจำนวนนี้ก็รวมถึงผู้จัดการแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่ที่เอเธนส์ ด้วยเหตุนี้การแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่ครั้งแรกในกรุงเอเธนส์ที่จัดขึ้นใน ค.ศ. 1896 จึงได้บรรจุแข่งขันวิ่งมาราธอนด้วย การวิ่งย้อนรอยตำนานที่มีอายุยาวนานถึง 24 ศตวรรษก็ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก การแข่งขันครั้งนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน 1896 กำหนดระยะทางไว้ที่ 40 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นจากสะพานมาราธอน เส้นชัยอยู่ที่สนามกีฬาโอลิมปิกในเอเธนส์ ผู้ชนะในครั้งนั้นคือ สไปริดอน ลูอิส จากกรีซ ด้วยเวลา 2:58:50 ชั่วโมง เส้นทางที่แข่งขันมาราธอนในครั้งนั้นยังคงใช้แข่งขันมาจนถึงปัจจุบันในมาราธอนประจำปีชื่อ เอเธนส์คลาสสิกมาราธอน
ในเมื่อมีการแข่งวิ่งมาราธอนที่วิ่งจากมาราธอนไปเอเธนส์ได้ เหตุใดจะไม่มีการแข่งวิ่งที่วิ่งจากเอเธนส์ไปสปาร์ตาด้วยเล่า? การแข่งในเส้นทางนี้มีจริง แต่ไม่ได้เรียกการวิ่งมาราธอน รายการนี้มีชื่อว่า สปาร์ตาทลอน เส้นทางวิ่งมีระยะทาง 246 กิโลเมตร จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นมา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น